บ้านแม่สารบ้านตอง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองลำพูน โดยห่างจากตัวเมืองเพียง ๑.๒ กิโลเมตร บ้านแม่สารบ้านตองเป็นหมู่บ้านหัตถกรรมที่มีความโดดเด่นในการทอผ้าทั้งผ้าไหมและผ้าฝ้ายด้วยลวดลายยกดอกที่ยังคงใช้วิธีการทอแบบโบราณ ลวดลายบนผ้าเมื่อสัมผัสแล้วจะนูนขึ้นจากตัวผ้าและการจัดวางลายจะเป็นระเบียบและลงตัว นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการเลือกสีมาผสมผสานบนผืนผ้า ผ้าที่ทอได้นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องนุ่มห่มโดยเฉพาะการตัดเย็บเป็นผ้าถุง
ชาวแม่สารบ้านตองได้มีการรวมกลุ่มทอผ้าขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๒๖ โดยการนำของป้าจรรยา เพื่อสร้างเป็นอาชีพเลี้ยงดูครอบครัวและช่วยกันพัฒนาผ้ายกดอกให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการสืบทอดผ้ายก ดอกไม่ให้หายสาบสูญ การจำหน่ายสินค้าในตลาดหัตถกรรมผ้าทอแม่สารบ้านตอง เป็นการเปิดขายที่บ้านของตนเอง และบางส่วนนำไปขายที่ตลาดขัวมุงบริเวณหน้าวัดพระธาตุหริภุญชัย ซึ่งสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง
จากข้อมูลดังกล่าวคือสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ศูนย์หัตถกรรมผ้าทอแม่สารบ้านตองเป็นหนึ่งในหมู่บ้านท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของจังหวัดลำพูนซึ่งสามารถที่จะดำเนินการเพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไปในอนาคต โดยการดำเนินการสามารถที่จะนำความโดดเด่นทางด้านการทอผ้ายกดอกซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น วิถีชีวิตของชาวบ้านเป็นแบบเรียบง่าย โดยส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา ทำสวน ผู้ชายในหมู่บ้านจะมีฝีมือในการทำปูนปั้น ผู้หญิงจะทอผ้า ชาวบ้านจะเรียนรู้การทอผ้าตั้งแต่เด็กโดยทำนาเสร็จก็จะมาเรียนทอผ้า ทำให้บ้านเกือบทุกหลังมีกี่ทอผ้าภายในบ้าน ซึ่งนับว่าเป็นชุมชนที่มีความเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง สามารถที่จะเปิดตัวเป็นตลาดต้องชมได้อย่างยั่งยืน นอกจากนั้นจากบรรยากาศที่ทั้งหมู่บ้านเป็นแหล่งผลิตโดยตรงถ้ามีการต่อยอดให้เกิดเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีความเป็นอยู่และมีส่วนร่วมในการผลิตหรือทอผ้าจะเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญ อีกทั้งสามารถที่จะเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวให้ครบวงจรกับตลาดต้องชมแห่งอื่นๆ ในจังหวัดลำพูนได้
ตลาดหัตถกรรมผ้าทอมือบ้านดอยหลวง เป็น “ตลาดต้องชม” แห่งใหม่ของจังหวัดลำพูนเปิดดำเนินการทุกวันตั้งแต่ 8.00-16.00 น. โดยตลาดแห่งนี้มีการสืบทอดภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่นและนำเอาความเป็นชาติพันธุ์ชาวยอง (ชาวไทลื้อ) ออกมาเผยแพร่ทั้งภาษายอง วัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่น รวมทั้งผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายทอมือ ซึ่งผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวบ้านดอยหลวงมาเป็นเวลานาน ทั้งนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังได้ฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูนและหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ ร่วมกับผู้ประกอบการพัฒนาสินค้าให้ขับเคลื่อนไปพร้อม ๆ กับการเล่าเรื่องราวความเป็นมาของผลิตภัณฑ์โดยให้มุ่งเน้นการสร้างความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ในท้องที่อื่น ยากต่อการลอกเลียนแบบ สามารถขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication : GI) ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่มีโอกาสจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น มีรายได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับผ้าไหมยกดอกลำพูน